เงินบาท (ตัวละติน: Baht ; สัญลักษณ์:
฿ ; รหัสสากลตาม
ISO 4217:
THB) เป็นสกุลเงินตราประจำชาติของประเทศไทย
เดิมคำว่า "บาท" เป็นหนึ่งในคำใช้เรียกหน่วยการชั่งน้ำหนักของไทย
ปัจจุบันยังมีใช้ในความหมายเดิมอยู่บ้าง โดยเฉพาะในการซื้อขายทองคำ เช่น
"ทองคำวันนี้ราคาขายบาทละ 15,000 บาท"
หมายถึงทองคำหนักหนึ่งบาทสามารถขายได้ 15,000 บาท ในสมัยที่เริ่มใช้เหรียญครั้งแรก
เงินเหรียญหนึ่งบาทนั้นเป็นเงินที่มีน้ำหนักหนึ่งบาทจริง ๆ
ไม่ได้ทำด้วยทองแดงนิกเกิลเช่นในปัจจุบัน
เหรียญไทยนั้นผลิตออกมาโดยสำนักกษาปณ์
กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
โดยสามารถผลิตออกใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนโดยไม่ต้องมีสิ่งใดมาค้ำประกัน
เพราะโลหะที่ใช้ผลิตเหรียญกปาษณ์นั้นมีค่าในตัวเองอยู่แล้ว
ส่วนธนบัตรนั้นผลิตและควบคุมการหมุนเวียนโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
การผลิตธนบัตรนำออกใช้จะมีหลักเกณฑ์วิธีที่เหมาะสมเพื่อให้เศรษฐกิจของชาติมีเสถียรภาพ
ตามข้อมูลของสมาคมโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก
(SWIFT) สกุลเงินบาทได้รับการอันดับเป็นสกุลเงินอันดับที่
10 ของโลกที่ใช้ในการชำระเงินระหว่างประเทศ (most frequently used currencies in World Payments)
ประวัติศาสตร์สกุลเงินของประเทศไทย
ระบบสกุลเงินไทยในปัจจุบัน ซึ่งเงินหนึ่งบาท
มีค่าเท่ากับ 100 สตางค์ เริ่มใช้ปี พ.ศ. 2440 ในสมัยรัชกาลที่ 5
ก่อนหน้านั้นเงินตราไทยใช้ระบบดังนี้ คือ หาบ, ชั่ง, ตำลึง, บาท, มายน หรือมะยง, สลึง, เฟื้อง, ซีก, เสี้ยว, อัฐ, โสฬส
หรือ โสฬส, เบี้ย
เหรียญของสกุลเงินของประเทศไทย
ในปัจจุบันมีการผลิตเหรียญกษาปณ์อยู่ทั้งหมด 9
ชนิดคือ เหรียญ 1, 5, 10, 25
และ 50 สตางค์, 1, 2, 5
และ 10 บาท โดยเหรียญ 25 และ 50 สตางค์, 1, 2, 5 และ 10 บาท
เป็นเหรียญที่ออกใช้หมุนเวียนทั่วไป ส่วนเหรียญ 1, 5 และ 10 สตางค์ ไม่ได้ออกใช้หมุนเวียนทั่วไป
แต่ใช้ภายในธนาคารเท่านั้น
แต่ในปัจจุบันได้เกิดปัญหาราคาวัตถุดิบในการผลิตเหรียญสูงกว่าราคาเหรียญ
ทำให้เกิดการลักลอบหลอมเหรียญไปขาย หรือบางครั้งก็เกิดปัญหาการใช้เหรียญผิด
เพราะรูปร่างและสีของเหรียญบางชนิดนั้นคล้ายกัน (เช่น เหรียญ 1 บาท กับ เหรียญ 2
บาท แบบเก่า) ดังนั้น ใน พ.ศ. 2552 กระทรวงการคลัง
ได้เปลี่ยนแปลงวัตถุดิบในการผลิตเหรียญบางชนิด เพื่อป้องกันการหลอมเหรียญ
สร้างความแตกต่างของเหรียญ และลดความยุ่งยากในการใช้เหรียญเป็นดังนี้ คือ เหรียญ 1
สตางค์, เหรียญ
5 สตางค์, เหรียญ
10 สตางค์, เหรียญ
25 สตางค์, เหรียญ
25 สตางค์ (แบบ 2), เหรียญ
50 สตางค์, เหรียญ
50 สตางค์ (แบบ 2), เหรียญ
1 บาท, เหรียญ
2 บาท, เหรียญ
5 บาท, เหรียญ
10 บาท, เหรียญ
10 บาท(แบบ 2)
ธนบัตรของสกุลเงินของประเทศไทย
นับแต่เริ่มนำธนบัตรออกใช้เมื่อพุทธศักราช 2445
จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้นำธนบัตรออกใช้รวมทั้งสิ้น 16 แบบ ซึ่งแบ่งเป็นธนบัตรก่อนจัดตั้งโรงพิมพ์ธนบัตร
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ ธนบัตรแบบ 1-10 รวมทั้งธนบัตรแบบพิเศษ
และธนบัตรที่ผลิตจากโรงพิมพ์ธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ ธนบัตรแบบ 11-16
ธนบัตร ที่ใช้ในประเทศไทยในปัจจุบันมีหลายชนิด
แต่หลายชนิดเป็นธนบัตรที่ระลึกที่มีจำนวนจำกัด และไม่ถูกใช้ในการหมุนเวียนทั่วไป
เช่น ธนบัตรที่ระลึกมูลค่า 60 บาท เป็นต้น ส่วนธนบัตรที่ถูกใช้หมุนเวียนทั่วไป
และยังมีการผลิตอยู่อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน มี 5 ชนิด ได้แก่ ธนบัตร 20, 50, 100, 500
และ 1000 บาท
ธนบัตรและเหรียญสกุลเงินของประเทศไทย
แหล่งข้อมูล : จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี